สถานการณ์ Big Data in Healthcare ตอนที่ 1: เมื่อระบบ Digital เข้ามาแทน
ในช่วงที่ผ่านมา บริษัท คอราไลน์ จำกัด ได้มีโอกาสเก็บเกี่ยวประสบการณ์ Big Data ในแวดวงสาธารณสุข ทั้งในระดับโรงพยาบาลและการพัฒนาการรักษาพยาบาลในหลายๆโครงการจึงเป็นที่มาของบทความนี้เพื่อแชร์มุมมองในการปรับตัวเมื่อ Digital กำลังกดดันให้เราทุกคนต้องปรับตัว
ก่อนหน้านี้เราคงเคยชินกันดีกับการที่แพทย์จะเขียนประวัติของเราลงไปในแฟ้มเก็บเอกสาร อาจจะมีการเขียนใบสั่งยาส่งต่อให้เภสัชกรเพื่อเบิกยาและมีการรอเรียกเก็บเงินค่ารักษาพยาบาล กระบวนการทั้งหมดเกิดขึ้นบนกระดาษหรือเรียกได้ว่าเป็นการทำงานโดยมนุษย์ทั้งสิ้น (Manual)
ในมุมของคนทำงานมันก็สะดวกดีเพราะเราทุกคนสามารถเขียนหนังสือได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งถ้าเขียนประโยคซ้ำๆชื่อซ้ำๆอาการซ้ำๆด้วยแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ลายมือของแพทย์เป็นลายมือที่เรียกได้ว่ามีลายเส้นที่ดูเหมือนไม่ใช่ภาษาที่คนทั่วไปจะอ่านออกได้กันเลยทีเดียว
แต่เมื่อมีระบบเข้ามาแทนที่หลายคนอาจจะมองว่าระบบนี้ทำให้การทำงานช้าลง เพราะต้องคอยกรอกข้อมูลซ้ำซ้อน ต้องฝึกพิมพ์ใหม่ อาจจะมีผิดๆถูกๆบ้าง ทำให้เกิดความกังวลเรื่องการใช้งานระบบขึ้น หลายองค์กรจึงยังไม่เห็นความสำคัญของการลงระบบแทนที่การเขียนประวัติการรักษาลงในกระดาษ
ความเป็นจริงแล้ว เหตุผลที่ต้องใช้ระบบไม่ใช่เพราะต้องการลดการใช้กระดาษแต่เป็นการต้องการเก็บข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบพร้อมใช้เป็นรูปแบบเดียวกันเพราะนั่นจะทำให้ข้อมูลที่เกิดขึ้นในระบบสามารถนำมาต่อยอด หรือวิเคราะห์ได้กว้างกว่า ลึกกว่า
ถ้าเก็บข้อมูลด้วยกระดาษ แพทย์จะทราบแค่ว่าคนคนนั้นป่วยเป็นโรคอะไร มีอาการอะไร เข้ามารักษาเมื่อวันที่เท่าไหร่ เมื่อแพทย์ผู้นั้นเปิดดูแฟ้มประวัติโดยที่แฟ้มนั้นจะต้องมาอยู่ตรงหน้าและต้องมีการดูแลรักษาอย่างดี
ในขณะที่หากเป็นระบบประวัติการรักษาจะถูกเก็บเอาไว้ในรูปแบบ Digital ที่แพทย์ผู้มีอำนาจในการเปิดดูประวัติสามารถเปิดดูที่ไหนก็ได้ แม้น้ำจะท่วมอีกกี่ครั้ง ปลวกจะขึ้นโรงพยาบาลอีกกี่รอบแฟ้มประวัติคนไข้ก็ไม่หายไปไหน
ที่สำคัญที่สุดคือการสามารถนำข้อมูลการป่วยมาวิเคราะห์ต่อได้ทันทีเช่นผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านมเหมือนกันอาจเกิดจากการใช้ยาฮอร์โมนตัวเดียวกันแสดงว่าฮอร์โมนบางตัวมีผลต่อประชากรไทยก็เป็นได้
ข้อมูลอะไรที่เกิดซ้ำๆกันนั้นอาจหมายถึงมีปัจจัยร่วมก็เป็นได้ซึ่งจะสามารถวิเคราะห์ได้ทันที หากข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่พร้อมใช้พร้อมให้นำมาวิเคราะห์
แล้วจะทราบได้อย่างไรว่าข้อมูลนั้นพร้อม? เอาง่ายๆเลยหากคุณจะวิเคราะห์ตัวเลขอะไรก็ตามจำนวนมากๆคุณจะกดเครื่องคิดเลขหรือใช้ Microsoft Excel? ก็คงต้องเป็นคำตอบหลังและการจะนำข้อมูลเข้า Microsoft Excel คุณจะรู้สึกอย่างไร ถ้าคุณต้องพิมข้อมูลจากกระดาษเข้าไปใหม่ทุกครั้ง? มันก็เป็นการทำงานซ้ำซ้อนในขณะที่หากข้อมูลอยู่ในรูปแบบ Digital แล้ว พร้อมใช้แล้ว คุณก็แค่ใส่สูตรคำนวณแล้วกด Enter แค่นั้นก็ได้กราฟสวยงามพร้อมให้มีการวิเคราะห์ต่อยอดได้ต่อไป
ที่เล่ามานี้เป็นเพียงการเกริ่นเรื่องความเป็นจริงแล้วมันไม่ง่ายเช่นนั้นเพราะอะไร? เพราะความวุ่นวายในโรงพยาบาลโดยเฉพาะโรงพยาบาลของภาครัฐ ที่มีจำนวนผู้ป่วยมหาศาลและยังมีต้องมีการจัดการคิวของผู้ป่วยอีกด้วย การลงระบบในช่วงแรก จึงกระทบต่อการทำงานอย่างมากทำให้เกิดความตึงเครียดในการทำงานของผู้เกี่ยวข้อง
บางท่านมองว่าการกรอข้อมูลก็เพื่อให้ทราบประวัติผู้ป่วย ทำไมต้องลงระบบให้ยุ่งยาก ความคิดนี้ไม่ผิด เพราะการเปลี่ยนแปลงมันสร้างความยุ่งยากในตอนต้นเสมอ แต่ถ้ามีความเข้าใจในผลลัพธ์ ก็จะเกิดความร่วมมือที่ดีได้
เหมือนครั้งแรกที่เราทุกคนเรียนขับรถ เราต่างมีความกังวล เรากลัว เรางง ต้องใช้เวลาสักระยะในการปรับตัว ไม่ต่างกันกับการใช้ระบบต่างๆ มาทดแทนงาน Manual ในองค์กร
หากไม่มีการใช้ระบบในการบันทึกประวัติผู้ป่วย สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ เราจะไม่มีการรวบรวมข้อมูลการรักษาพยาบาลของคนไทยที่พร้อมใช้เลย และนั่นส่งผลให้ทางส่วนกลาง ไม่สามารถจัดสรร ปันส่วนงบประมาณของประเทศให้โรงพยาบาลต่างๆ ได้ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตด้านสาธารณสุขของประชากรไทยไม่ก้าวเดินไปข้างหน้า เหมือนของที่อื่น
คุณจำประวัติการป่วยของคุณได้หรือไม่?
คุณจำครั้งสุดท้ายที่คุณฉีดวัคซีนกันบาดทะยักได้หรือไม่?
คุณทราบหรือไม่ว่าแต่ละช่วงอายุจำเป็นต้องมีการตรวจสุขภาพอย่างไรบ้าง?
คำถามเหล่านี้อาจถูกแก้ด้วยการมีข้อมูลในระบบก็เป็นได้
ความร่วมมือเท่านั้นที่จะแก้ไขสถานการณ์นี้ได้เพราะการเปลี่ยนขั้นตอนจากเขียนลงกระดาษเป็นการกรอกข้อมูลให้ครบในระบบนั้นคงไม่ยากจนเกินไป
ระบบเมื่อได้ชื่อว่าเป็นเทคโนโลยีแล้วต้องสามารถพัฒนาต่อยอดได้ ดังนั้นในช่วงแรก หากระบบยังไม่เสถียรหรือยังมีข้อบกพร่องก็เป็นหน้าที่ของ User ที่ต้องส่ง Feedback กลับมาให้ทีมพัฒนาและทีมพัฒนาก็ต้องใส่ใจรายละเอียดเพื่อให้ระบบนั้นสามารถสร้างคุณค่าได้สูงที่สุด
ดังนั้นบุคคลที่มีส่วนสำคัญในโครงการนี้จึงมีหลายภาคส่วนมากตั้งแต่ฝ่ายทะเบียน เจ้าหน้าที่ห้องบัตร พยาบาล แพทย์ผู้ตรวจ นักกายภาพ เภสัชกร นักวิชาการสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ของรัฐ นักเขียนโปรแกรม ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูล รวมไปถึง เราทุกคนที่เป็นผู้ป่วย
เราทุกคนจะช่วยกันให้ทุกอย่างเป็นระบบให้มากขึ้น อาจจะเหนื่อย อาจจะใช้เวลา แต่ประโยชน์ที่ได้นั้นมหาศาลจริงๆ
ตอนต่อไป : Case Study รพ.รัฐ ที่ต้องการลดเวลาในการรอพบแพทย์ ค่ะ
#Coraline Big Data Project Digital Transformation
— — — — — — — — — — — — — — — — — — — — —
We turn your DATA into your KEY of success.
ให้คำปรึกษาการทำโครงการ Big Data, Data Model, Artificial Intelligence และ Digital Transformation เพื่อเพิ่มศักยภาพของธุรกิจ
Tel: 099–425–5398
Email: inquiry@coraline.co.th
FB Page: Data Driven Business by Coraline
Messenger: m.me/coralineltd
— — — — — — — — — — — — — — — — — — — — —
Originally published at https://www.coraline.co.th